ความคิดของผู้คนได้วิจัยผลการทดลองพบว่า 75- 90% ของพลังสมอง ใช้ความคิดหมดไปกับการคิดเรื่องที่ไม่ก่อประโยชน์ และมักจะใส่ความคิดผิด ๆ ให้กับตัวเอง
ถ้าจะเปรียบเทียบการทำงานของคอมพิวเตอร์ ถ้าเราใส่ software ที่ผิด ผลการคำนวณก็ออกมาผิด
ถ้าจะเปรียบเทียบประสิทธิภาพการทำงาน ระหว่างสมองกับคอมพิวเตอร์ ในทางทฤษฎี พบว่า…………..
” สมองมนุษย์เก็บข้อมูลได้เยอะกว่า และสามารถประมวลข้อมูล ที่มีความสลับซับซ้อน ได้รวดเร็วดีกว่าคอมพิวเตอร์
• แล้วทำไมเราจึงเรียนรู้ช้า? เพราะขาดความสามารถในการจดจ่อความคิดต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นเวลานานได้ และไม่สามารถควบคุมความคิด ให้คิดในทางที่สร้างสรรค์ได้ เนื่องจากคนส่วนใหญ่จะปล่อยให้สถานการณ์ภายนอก ชักจูงความคิดให้กระโดดไปมา คิดเรื่องในอดีต หรือเรื่องที่ก่อความทุกข์ให้กับตนเอง และมักปล่อยให้ความคิดทำลายตัวเอง เข้ามาบั่นทอนประสิทธิภาพในการเรียนรู้ ทำให้เรียนรู้ช้า, คิดไม่ชัดเจน คิดไม่ทัน สุดท้ายคิดลบอยู่บ่อยๆ
วิธีฝึกเพิ่มพลังสมองสร้างความคิดบวก
1. เปลี่ยนความคิดจากลบให้เป็นความคิดเชิงบวก ฝึกอะไรบ้าง?
• ทำงานอย่างมีเป้าหมาย ถ้าอยากฉลาดแบบนักคิดระดับโลก ก็ต้องคิดเหมือนพวกเขา คือ ทำสิ่งต่าง ๆ อย่างมีเป้าหมาย เช่น ก่อนจะอ่านหนังสือก็ต้องรู้ก่อนว่า เรากำลังจะอ่านอะไร อ่านไปเพื่ออะไร เป็นต้น
• ต้องรู้ระบบความคิดของเราก่อนว่า ความคิดไหนทำให้เราคิดในทางลบ เช่น เมื่อเราเห็นคนอื่นทำไม่ได้เราจึงคิดว่าเราทำไม่ได้ , เชื่อว่าตัวเองทำไม่ได้ เพราะความจำไม่ดี เป็นต้น
• ตัดความคิดในทางลบทิ้งแล้วใส่ความคิดบวกลงไปแทนที่ เช่น คนอื่นทำไม่ได้ช่างเขา แต่เราทำได้ก็แล้วกัน , “เราทำได้” ถ้าเราคิดว่าเราทำได้ เป็นต้น
2. หัดผ่อนคลายทั้งกายและใจ จากการทดลองพบว่า คนเราจะเรียนรู้ได้เร็วเมื่ออยู่ในสภาวะที่ผ่อนคลายทั้งกายและใจ ดังนั้นเราควรรู้จักผ่อนคลายจิตใจบ้าง เช่น ฝึกโยคะ ฝึกสมาธิ หรือ การสวดมนต์ อาจกล่าวได้ว่า การผ่อนคลายร่างกาย และจิตใจจะช่วยยับยั้งความคิดลบได้ชั่วคราว ทำบ่อยๆทำให้ความคิดบวกเข้ามาแทนที่
3. พยายามสังเกตว่าตัวเองเรียนรู้มีความคิดบวกได้ดีจากสื่อใด ถึงแม้สมองจะมีคุณสมบัติเหมือนกัน แต่รูปแบบหรือวิธีการเรียนรู้ของแต่ละคน ไม่เหมือนกัน บางคนเรียนรู้ได้เร็วจากการพูดคุยกับผู้อื่น, การอ่าน, บางคนต้องคิดหาด้วยตัวเอง, ต้องเห็นด้วยตา ฟังไม่เข้าใจบางคนต้องเขียนหรือดูภาพ หรือบางคนต้องฟังอย่างเดียว ดังนั้นถ้าเราต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ให้ให้เกิดพลังความคิดบวกดีขึ้น จำเป็นต้องสำรวจตัวเองว่า
• รูปแบบการเรียนรู้แบบใดทำให้เราเรียนรู้ได้เร็ว?
• ในช่วงเวลาใดของวันที่เรามีสมาธิสูงสุด กระตือรือร้นสูงสุด?
4. พยายามสร้างจุดเชื่อมโยงระหว่างข้อมูลกับความคิด จะช่วยให้เราสามารถเก็บข้อมูลและดึงข้อมูลมาใช้ได้อย่างประสิทธิภาพ อาจใช้การตั้งคำถาม , การเปรียบเทียบข้อมูล เพราะ สูงสุดของการเรียนรู้ คือ การนำความรู้มาใช้ให้เกิดประโยชน์
5. หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ นอกจากจะทำให้เรามีความสดชื่น กระตือรือร้น แล้วเมื่อเราออกกำลังกายนานติดต่อกัน 12 – 20 นาที จะส่งผลให้สมอง และความคิดดียิ่งขึ้น ทำให้สมองทั้ง 3 ส่วน คือ ส่วนซ้าย ส่วนขวา และสมองส่วนกลาง ทำการแลกเปลี่ยนข้อมูลได้อย่างสะดวก ทำให้เราใช้ความคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะสามารถใช้สมองทั้ง 3 ส่วนได้พร้อม ๆ กันในเวลาเดียว
6. ควรเข้าใจการทำงานของสมอง การทำงานของสมองในส่วนความจำจะทำงานได้ดีในเวลาที่ต่างกัน ดังนี้
• ความจำระยะสั้น ทำงานได้ดี ช่วงเช้า
• ความจำระยะระยะยาว ทำงานได้ดี ช่วงบ่าย
• จำเกี่ยวกับตัวเลข ทำงานได้ดี ช่วงก่อนนอน
ที่มาของข้อมูล :http://blog.vee-ra.com/พลังสมอง-ความคิดบวก
วีระ ศรีหะรัญ